จิตและเจตสิกเป็นสภาพธรรมซึ่งเกิดร่วมกัน พร้อมกัน
ปราศจากกันไม่ได้ แยกกันไม่ได้ เมื่อเกิดขึ้นพร้อมกันแล้วก็ดับพร้อมกัน
รู้อารมณ์เดียวกัน เกิดที่รูปเดียวกัน (ในภูมิที่มีขันธ์ ๕) นั้นคือลักษณะที่
เป็นสัมปยุตตธรรม
ความวิจิตร คือ ความต่างกันของจิตนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด ตามสัมป-
ยุตตธรรม คือ เจตสิกที่เกิดร่วมด้วย ฉะนั้น จึงควรเข้าใจความหมายของสัมป-
ยุตตธรรม ปรมัตถธรรมมี ๔ คือ จิตปรมัตถ์ ๑ เจตสิกปรมัตถ์ ๑ รูปปรมัตถ์ ๑
นิพพานปรมัตถ์ ๑
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากhttp://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=8628
ปราศจากกันไม่ได้ แยกกันไม่ได้ เมื่อเกิดขึ้นพร้อมกันแล้วก็ดับพร้อมกัน
รู้อารมณ์เดียวกัน เกิดที่รูปเดียวกัน (ในภูมิที่มีขันธ์ ๕) นั้นคือลักษณะที่
เป็นสัมปยุตตธรรม
ความวิจิตร คือ ความต่างกันของจิตนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด ตามสัมป-
ยุตตธรรม คือ เจตสิกที่เกิดร่วมด้วย ฉะนั้น จึงควรเข้าใจความหมายของสัมป-
ยุตตธรรม ปรมัตถธรรมมี ๔ คือ จิตปรมัตถ์ ๑ เจตสิกปรมัตถ์ ๑ รูปปรมัตถ์ ๑
นิพพานปรมัตถ์ ๑
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากhttp://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=8628
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น